วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ


สุดท้าย....... ยิ่งฉันเรียนรู้มันมากแค่ไหน ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจสักอย่างจริงๆ ฮู้ ฮู้วววววววววววววววววววว

ในวงการม้า ผู้ที่มีอิทธิพลและมีอำนาจในการควบคุมชะตาชีวิตของม้าแต่ละตัวนั้น หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเจ้าของม้า ผู้เป็นเจ้าของชีวิตของม้าแต่ละตัว เป็นผู้ที่ออกเงินเพื่อจะให้ได้ม้าตัวนั้นๆ มาครอบครอง

ผมเกริ่นนำแบบนี้ แน่นอนครับว่าไม่ใช่เจ้าของม้าแน่นอน แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อว่า “เทรนเนอร์”

เทรนเนอร์: (น.) ผู้ฝึกหัดนักกีฬา, ผู้ฝึกหัดม้า ……..
เทรนเนอร์ก็เป็นคนที่ฝึกหัดม้าเพื่อให้ม้ามีพละกำลัง เหมาะสมที่จะไปเป็นม้าแข่งที่ดี เป็นผู้ชนะในสนามอันทรงคุณค่า(ทางธุรกิจ)

ก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ แต่เทรนเนอร์หลายคนก็ไม่ธรรมดา

เทรนเนอร์จะฝึกหัดม้าให้มีพละกำลังด้วยการกำหนดตารางฝึกซ้อม การตีวง การออกกำลังกาย การพาไปว่ายน้ำ การนำม้าไปปล่อยเพื่อให้คุ้นชินกับการเข้าซองสตาร์ท เป็นการเตรียมความพร้อมทุกอย่างเพื่อการแข่งขัน

สูตรใครก็สูตรมัน แต่ละคนก็มีเคล็ดลับแตกต่างกันไป

แต่ที่ผมแปลกใจมากถึงมากที่สุดก็คือ เทรนเนอร์ "บางคน" (เน้นว่าบางคน ผมไม่ได้เหมารวมนะครับ) สามารถฝึกซ้อมม้าด้วยเข็มฉีดยาได้ด้วย ม้าเจ็บป่วยอะไรก็ให้ยาได้ด้วยตนเองได้ ไม่ต้องพึ่งหมอกันเลย บางคนอยู่กับม้ามาตั้งแต่เด็ก รู้หมดแล้วว่าถ้าม้ามีอาการแบบนั้นแบบนี้ควรให้อะไร หมอยังรู้ไม่เท่าเลย.......... ขาดเขลาเสียจริง

ที่ผมได้เจอมามันเป็นอะไรที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันหนึ่งหมอผู้ขาดเขลาเดินเข้าไปในคอกม้าที่ได้นัดแนะกันไว้ว่าจะเข้าไปตรวจรักษาม้าตัวหนึ่งให้ เห็นเทรนเนอร์คนเก่งกำลังให้น้ำเกลือม้าทางเส้นเลือด สิ่งที่แขวนอยู่ติดฉลากว่าเป็นน้ำเกลือชนิด N-S-S แต่ไม่ธรรมดาแน่ๆ เพราะสีของน้ำเกลือที่อยู่ภายในมันไม่ใช่สีปกติ.......... สีสวยเชียว

หมอผู้ขาดเขลา: พี่ๆ นี่พี่ให้ยาอะไรเหรอครับ.......
เทรนเนอร์คนเก่ง: อ๋อ ให้น้ำเกลือกับยามันหน่อยน่ะครับ มันทรุดๆ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
หมอผู้ขาดเขลา: มันเป็นอะไรเหรอครับ (ทำหน้าแบ๊วๆ)
เทรนเนอร์คนเก่ง: ลำไส้มันไม่ค่อยดีน่ะหมอ ก็เลยให้ยาช่วยเรื่องลำไส้มันหน่อย
หมอผู้ขาดเขลา: ให้อะไรครับเนี่ย (ทำหน้าเป็นห่วง)
เทรนเนอร์คนเก่ง: อ๋อ ก็ให้ Pendistrep น่ะครับ
หมอผู้ขาดเขลา: .................. (แอ๊บไม่เนียน เผลอเงียบอึ้งไปสองวิ) ตอนแรกอาการเป็นอะไรนะครับ
เทรนเนอร์คนเก่ง: พี่อีกคนเค้ามาดูเค้าบอกว่ากล้ามเนื้อมันไม่ค่อยดีครับ เลยบอกให้ให้ยาน่ะครับ ช่วยเรื่องลำไส้มันหน่อย
หมอผู้ขาดเขลา: .................. อ๋อออออออออออ ครับ ให้มากี่วันแล้วเนี่ย (หมอผู้ขาดเขลา กำลังคิดในใจ และเริ่มขมวดคิ้ว โดยที่ไม่รู้ตัว................... อืม กล้ามเนื้อไม่ดี เลยให้ยาช่วยเรื่องลำไส้นี่เอง)
เทรนเนอร์คนเก่ง: ก็นี่ให้มาวันที่สามแล้วครับหมอ วันละครั้ง อาการมันก็ดีขึ้นนะ ตอนแรกหายใจหอบด้วย นี่ดีขึ้นละ
หมอผู้ขาดเขลา: ตอนแรกมันเป็นอะไรเหรอครับ (แอ๊บทำหน้าอยากรู้ต่อไป)
เทรนเนอร์คนเก่ง: ตอนแรกหลังมันเจ็บน่ะหมอ นี่พี่ชายผมฉีดยาแล้วก็ดีขึ้นละ แต่มันก็ยังหอบอยู่ เลยให้ยาช่วยเรื่องลำไส้มันหน่อย
หมอผู้ขาดเขลา: ................................................... เจ็บหลังก็เลยฉีดยาที่หลังเหรอครับ พอหลังไม่เจ็บแล้ว แต่ก็เห็นว่าม้ายังหอบอยู่ เลยให้ยาช่วยเรื่องลำไส้มันหน่อยเหรอครับ (เก็บอาการไม่อยู่ ปากยิ้ม แต่คิ้วขมวด)
เทรนเนอร์คนเก่ง: ครับหมอ เดี๋ยวหมอเตรียมของเลยก็ได้ครับ เดี๋ยวผมให้ยาตัวนี้เสร็จแล้วจะไปจับตัวนั้นให้หมอตรวจครับ
หมอผู้ขาดเขลา: ................. (หันหลังกลับและเดินกลับไปที่รถ แล้วก็หยิบของเพื่อเตรียมลงไปตรวจม้าตามปกติ)

ระหว่างนั้นก็ได้แต่คิดทบทวนถึงสิ่งที่เพิ่งรับรู้มา

สูตรการให้ยาแบบนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย มันช่างแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด เหมือนเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด

ม้าเจ็บกล้ามเนื้อเลยฉีดยาไป แต่ยังไม่หาย และม้าหอบอยู่ ก็เลยให้ยาเพื่อช่วยเรื่องลำไส้............. มันใช่เหรอวะ


สวดยวดเลยลวกเพี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อีกวันหนึ่ง(ก่อนหน้าวันหนึ่งครั้งที่แล้ว) ผมเข้าไปตรวจม้า และรายงานผลว่าม้าตัวนี้ควรปลด ไม่ควรนำมาเป็นม้าแข่งอีก เนื่องจากกระดูกเข่าแตกเป็นชิ้นเล็กๆ (Chip fractures) หลายชิ้น และมีแคลเซียมมาพอก เข่าข้างนึงบวมกว่าอีกข้างนึงที่ปกติเกือบสองเท่า (แค่เดินก็เจ็บแล้ว)

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: เป็นไงบ้างหมอ รักษาไม่ได้ใช่มั้ย ผมก็ว่าแล้วล่ะว่ามันต้องกระดูกแตกซ้ำแน่เลย ผมก็บอกเจ้าของแล้วว่าไม่ต้องให้หมอเข้ามาหรอก ถึงตรวจรู้ว่าเป็นอะไรหมอก็รักษาไม่ได้แล้ว เดี๋ยวผมรักษาเอง

หมอผู้ขาดเขลา: ................................ (มองหน้านิ่งๆ พยายามยิ้ม แต่คิ้วขมวดอีกแล้ว)

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: เนี่ย ก่อนหน้านั้นหมอ A (นามสมมติ) ก็เข้ามาเอ็กซเรย์แล้วก็บอกว่ากระดูกเข่าแตก ให้ไปผ่าตัด ผมก็ไม่ได้ผ่านะ เค้าบอกว่าแตกไม่เยอะ ผมมียาดีไงใช้ทาเข่าเอา ทาสักสองสามวัน น้ำเหลืองมันก็ไหลออกมานะ เลือดเสียก็ไหลออกมาจากเข่าหมดละ เศษตอนนั้นก็ออกมาด้วย ผมก็เลยเอากลับไปแข่งอีก

หมอผู้ขาดเขลา: .............................. เกลื่อนจนถึงข้างใน จนกระดูกออกมาเลยเหรอครับ?

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: ใช่ พอไปให้หมอ B (นามสมมติ) มาเอ็กซเรย์อีกที เค้าก็บอกว่าไม่เห็นเศษกระดูกแล้วนะ (พ่นควันบุหรี่ผ่านหน้าผมไป พร้อมทำหน้ามั่นใจ)

หมอผู้ขาดเขลา: หมอที่ไหนเหรอครับมาเอ็กซเรย์ให้ (ผมถามไปงั้นแหละ เพราะคนเลี้ยงบอกแล้วว่าใครมาดูให้ และเป็นพี่หมอคนที่ผมรู้จัก และได้โทรไปถามแล้ว พบว่าตอนนั้นยังมีเศษกระดูกแตกหลายจุด และมีแคลเซียมมาพอกเต็มไปหมด)

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: เค้าบอกว่ามีแคลเซียมมาพอกปิดหมดแล้ว
หมอผู้ขาดเขลา: ผมโทรคุยกับพี่เค้าแล้วครับ พี่เค้าบอกผมแล้วว่าตอนนั้นยังมีแตกอยู่หลายจุดด้วย และมีแคลเซียมมาพอกเยอะเลย

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: เฮ้ย ไม่ใช่นะหมอ ตอนนั้นเค้าบอกว่ามีแคลเซียมมาพอกปิดหมดแล้ว

หมอผู้ขาดเขลา: ไม่ใช่ครับ ตอนนั้นก็เศษกระดูกก็ยังอยู่ และมีแคลเซียมมาพอก เพราะว่ามันอักเสบมากครับ พี่หมอคนนั้นยืนยันกับผมเอง

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: แต่มันก็ไปวิ่งได้นะหมอ ซ้อมก็ไม่เป็นอะไร แต่พอวิ่งมาแล้วก็เจ็บเนี่ย

หมอผู้ขาดเขลา: วิ่งได้ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บครับ ไม่ได้แปลว่ากระดูกไม่แตกแล้ว

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: แต่มันไม่เจ็บนะหมอ ยาผมทาไปมันก็ไม่ได้กัดอะไรมาก หนังมันก็ค่อยๆ ลอกออก ไม่เจ็บ

หมอผู้ขาดเขลา: มันบอกหรือเปล่าครับว่ามันไม่เจ็บ ถ้ายังไงพี่ลองเอายามาทาเข่าพี่นะว่ามันเจ็บหรือไม่เจ็บ


ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอและมียาดี ไม่ได้โกรธเคืองอะไรผม คุยกันไปเรื่อยๆ หัวเราะใส่กันด้วยซ้ำครับ คุยกันอยู่นาน............................ แล้วสุดท้ายประโยคเด็ดก่อนลาก็ออกมา

ผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นหมอ: ที่หมอมันเรียนมามันเป็นเหมือนด้านสว่างไง ของผมมันก็เหมือนด้านมืด แต่ของผมมันก็รักษาหายได้เหมือนกัน หมอไม่รู้หรอกว่าผมทำอะไรได้ ยาผมรักษาม้ามาเป็นร้อยตัวแล้ว ส่วนใหญ่หายทั้งนั้น ตัวที่ไม่หายก็คือมันเป็นหนักจริงๆ เท่านั้นแหละ

หมอผู้ขาดเขลา: (หัวเราะด้วยหน้าตาบิดเบี้ยว) 5555 โอเคครับพี่ ถ้ายังไงวันหลังพี่จะรักษาเนี่ย โทรบอกผมนิดนึง ผมอยากเห็นกับตาจริงๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันรักษาแบบที่พี่บอกได้ด้วย วันนี้ผมกลับก่อนนะครับ

...........


แน่นอนผมไม่ได้เข้าคอกนั้นอีก ไม่มีการโทรตามผม และผมก็ไม่ได้โทรถามไถ่อะไรอีก

กระดูกแตก ไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้หายและเอาเศษกระดูกที่แตกออกมาจากข้อเข่าได้ นอกจากการผ่าตัดครับ ขนาดผ่าตัดกว่าจะเอาออกมาได้ยังยากเลย เพราะมันมีเยื่อหุ้มกระดูกที่ยึดเศษกระดูกนั้นไว้ ซึ่งแข็งแรงไม่ใช่ย่อยเลย


นี่แค่สองเรื่องนะครับ เทรนเนอร์บางคนนี่เค้ามีอะไรที่คาดเดาไม่ได้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคนนะครับ

แค่ ”บางคน” เท่านั้นแหละครับ


ไม่มีความคิดเห็น: