วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ม้ากีบเน่า และไอ้หมอเชี่ย

หลังจากที่ไม่ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเคสม้ามาพักนึง วันนี้ก็อดรนทนไม่ได้มันคันไม้คันมือคันปากเสียจริง จึงขอบรรเลงสักหนึ่งบทความ

เรื่องมันมีอยู่ว่า........ ม้าตัวหนึ่งชื่อเจ้าเงิน มีหมอเข้ามาดูบอกว่ารักษาไม่หาย แนะนำให้ฉีดยาให้มันตายเอง แต่อาตมา เอ้ย พระที่เอามาโพสต์บอกว่าจะเลี้ยงมันไปจนกว่าจะตาย อยากได้ยา หรืออาหารเสริมเพื่อประทังชีวิตเจ้าเงินต่อไป


ทีนี้มาเลยครับคอมเมนต์จากสาธุชนคนใจบุญ

ทำไมต้องฉีดยาให้ตายล่ะ ตัดขาไม่ได้เหรอ......
หมอพูดน่าเกลียด เค้าเรียกไปรักษาไปฉีดยาให้มันตายทำไม หมอกากกกกกกกกกก พวกมึงเป็นหมอจริงป่าวเนี่ย!!

หมอแม่งเชี่ยว่ะ

ถ้าวันนึงหมอป่วยขึ้นมา เค้าบอกว่ารักษาไม่หายต้องฉีดยาให้ตาย หมอจะยอมมั้ย คนหรือสัตว์ก็รักชีวิตเหมือนกันแหละ...... อืม คมนะคม.......






















อย่าตัดสินชีวิตใครด้วยการฉีดยาให้ตายนะครับ ชีวิตใครใครก็รักนะครับนะ






บางคนก็มาแนวปาฏิหาริย์ เชื่อแล้วมันจะดี






นี่ก็มาแนวธรรมะธรรมโม






พออ่านมาถึงตรงนี้ อื้อหือ!!! สัตวแพทย์นี่แม่งเหี้ยกันจริงๆ เลยเนอะ เลวทรามต่ำช้า ไม่มีจรรยาบรรณ เลวร้ายที่สุดทำไมทำแบบนี้ ที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาทหรือไง!!

ตัวผมเองก็......... แดกจุดไปสิ....................................................................................

แต่ในที่สุด!!

หลังจากที่หมอโดนด่าไปสักพัก ก็มีคนเข้ามาช่วยออกความเห็นที่เห็นด้วยกับหมอ

หมอเขาพูดถูกนะครับ มันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย น้องเค้าจะเจ็บขามาก หมอไม่ได้อยากฆ่าน้องหรอก....

แล้วก็มีคนเข้ามาช่วยอธิบายให้ช่วยทำเข้าใจอย่างถูกต้อง

เวลาม้าบาดเจ็บ เจ็บปวดทรมานมาก รักษาไม่หาย ก็เลือกให้เค้าไปเร็วๆ จะได้ไม่ต้องทรมานมาก คิดว่าหมอคงไม่อยากให้ม้าตายหรอกมั้งคะ (พยักหน้าเห็นด้วย หงึกๆ)

เข้าใจหน่อยค่ะ อย่าด่าหมอเลยค่ะ 

แล้วก็มีพี่สาวใจดีพี่ Jo Kanyanat ช่วยเข้ามาอัพเดทสถานการณ์ล่าสุด ว่าได้มีคนติดต่อหมอที่มูลนิธิม้าลำปางเรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งก็คือน้อง Denise Pattrareeya Kim นี่แหละครับที่เป็นคนติดต่อหมอทั้งหลายที่รู้จัก จากหมอกฤษณะที่มหิดล มาที่ผม และผมก็ส่งเรื่องต่อไปที่หมอคุง Koong Nakrub สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิม้าลำปาง เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ก็มีน้องแชมป์ (พี่แชมป์วัวยิ้ม เขย่าวงการวัวไทย) นักศึกษาสัตวแพทย์ปี 6 รุ่นน้องที่คณะผมเองก็เข้ามาช่วยอธิบาย ว่ามันเป็นอย่างไร ทำไมถึงต้อง Put to sleep

แล้วก็มีพี่หมอตั้ม Tum Chin ช่วยเข้ามาตอบอีกคน เพื่อให้ทำความเข้าใจกันก่อน และขอให้ช่วยหยุดด่าโดยที่ไม่ได้มีข้อมูลที่ถูกต้องในด้านนี้เสียทีเถิดดดดดด

พอได้คำอธิบายไป หลายๆ คนก็เริ่มเข้าใจเหตุผล หลายๆ คนก็ถึงกับปลง พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะอธิบายอย่างไรดี






















คาดว่าน่าจะจบด้วยดี แต่แล้ว.....

ไม่นะทำไมต้องทำแบบนี้ ระดมทุนสิ พาม้าไปรพ.ม้าสิ 

(ผมทำงานอยู่รพ.ม้า แห่งหนึ่ง ตัวผมเองประเมินแล้ว เห็นควรให้ Put to sleep ไม่ควรให้เค้าทรมานต่อนะครับ ไม่ต้องส่งมาที่ผม)

และก็ โลกสวยกันต่อไป

แล้วก็เริ่มประชดประชัน

จากนั้นก็มีคนเสนอนู่นนี่นั่นกันมา พี่หมอตั้ม ก็เข้ามาอธิบายอีกรอบเกี่ยวกับขาเทียมว่าเป็นอย่างไร มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น


และพี่โจ ก็พยายามเข้ามาสรุปอีกรอบนึง ว่าถ้าอยากรักษาก็เอาล่ะ พวกเราต้องช่วยกัน ค่าใช้จ่ายเท่านั้นเท่านี้ จัดเตรียมสถานที่ จัดเตรียมคนดูแล เอ้า เข้ามาช่วยลงชื่อกันหน่อยเร็วเข้า










(สำหรับคนที่กำลังอ่านต่ออย่าเพิ่งสงสัย ผมขอเว้นไว้ให้กับความเงียบหลังจากขอคนลงชื่อเพื่อรับผิดชอบดูแล)
.
.
.
.
.
.
.

(น่าจะพอ)



แต่อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของ Social network ก็ยังคงดำเนินต่อไป ด้วยการด่ากันอย่างสนุกสนาน

ใครอยากติดตามดราม่านี้ก็เชิญคลิกอ่านต่อกันเองได้ครับ คงหาไม่ยากนัก เพราะมีคนแชร์กันไปเยอะมาก



และหลังจากนี้ผมจะเขียนสรุปให้อีกครั้งว่าใน ม้ากีบเน่า และไอ้หมอเชี่ย (2) เพราะอะไรหมอถึงพิจารณาให้ Put to sleep เพราะอะไรถึงไม่พยายามรักษา เพื่อให้ทุกคนได้อ่านทำความเข้าใจ และใช้วิจารณญาณของตนเองอีกครั้งอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ด้วยความสะใจ

เพราะทุกครั้งที่มีอะไรแชร์ขึ้น Social Network ต่างๆ เราใจเร็ว มือเร็วกันเกินไปหรือไม่ที่จะออกความเห็นในเรื่องที่เราไม่รู้ ในเรื่องที่เราไม่มีข้อมูลอะไรเลย
เราด่าคน กลุ่มคน วิชาชีพ หรืออาชีพ ที่หลายๆ คนทำอยู่อย่างเสียๆ หายๆ โดยที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเลย เพียงเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเราเท่านั้นหรือ

นี่คีบอร์ดกู นี่คอมกู นี่เฟซบุ๊คกู นี่ความเห็นกู เท่านั้นหรือ....................................






(และผมไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง ทำไมเงียบกันจังครับ แค่ขอชื่อคนดูแลแค่เนี้ยเอง)

ปล. ผมไม่ขอเซนเซอร์ชื่อแอคเคาท์ FB ของแต่ละท่านนะครับ เพราะผมคิดว่าเป็นความเห็นที่ทุกท่านกลั่นออกมาจากสมองแล้วบรรจงนิ้วจิ้มสู่คีย์บอร์ดมาโผล่ในช่องคอมเมนต์ แล้วยังเอื้อมนิ้วไปกด Enter เพื่อส่งความเห็นนั้นๆ ด้วยตัวท่านเอง...... ผมถือว่าท่านไตร่ตรองกันดีแล้ว

1 ความคิดเห็น:

agri20 กล่าวว่า...

เลี้ยงอะไรคนเลี้ยงต้องเข้าในสัตว์ด้วย อย่าผลักภาระให้หมอ