กีบม้าเป็นจุดที่อยู่ต่ำสุดของตัวม้า
ซึ่งตรงข้ามกับความสำคัญที่คงต้องจัดให้อยู่ในลำดับต้นๆ
เพราะหากกีบม้าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ปัญหาต่างๆ ที่ตามมาก็จะน้อยมาก
หรือแทบจะไม่มีเลย
กีบม้าควรได้รับการดูแลทุกวัน
ด้วยการแคะกีบ และล้างทำความสะอาด
การแคะกีบและล้างกีบทุกวัน
มีประโยชน์อย่างมาก เพราะสิ่งที่ติดอยู่ภายใต้กีบอาจจะไม่ได้มีแค่เศษดิน เศษทราย
อาจจะเป็นหิน หรือกรวดก้อนเล็กๆ ที่เข้าไปติดอยู่ในร่องต่างๆ
และเศษหินเหล่านี้เองที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบในภายหลังได้ รวมทั้งขณะที่เราทำความสะอาด
เราก็จะสามารถสำรวจดูความผิดปกติของพื้นกีบได้ ว่ามีการอักเสบหรือไม่ เป็นการดูแลประจำวันที่ช่วยป้องกันโรค
และหากมีการบาดเจ็บใดๆ ก็จะสามารถพบได้เร็ว อาการของโรคก็จะไม่รุนแรง
การตัดแต่งกีบม้าก็มีความสำคัญ
หากทำดีก็ช่วยป้องกันปัญหาได้
การตัดแต่งกีบม้าและการใส่เกือก
เป็นเรื่องที่เราควรให้ความใส่ใจมากขึ้น หลักการในการสังเกตุง่ายๆ คือ
เราต้องรู้เสียก่อนว่ากีบปกติของม้าควรมีลักษณะใด
เพราะหากเรารู้ว่าปกติเป็นอย่างไรแล้ว
เมื่อเห็นสิ่งที่ผิดปกติไปก็จะสามารถทราบได้ทันที และบอกได้ว่าผิดไปจากเดิมอย่างไร
แล้วกีบม้าที่ปกติเป็นอย่างไร?
![]() |
ส้นกีบด้านนอกกับด้านในไม่เท่ากัน |
หากเราใส่รองเท้าที่ส้นของรองเท้าด้านนึงสึกกว่าอีกด้าน
เวลาเรายืนเราจะเป็นอย่างไร? ม้าก็เป็นเช่นกัน
หากส้นกีบด้านในและด้านนอกสูงไม่เท่ากัน ม้าก็จะยืนขาเบี้ยว
แรงกดที่ลงไปบนกีบก็จะไม่เท่ากัน
จุดใดที่รับแรงกดมากก็จะมีโอกาสเจ็บมากกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากเราใส่รองเท้าแตะที่ตัดส้นออก
เวลาเรายืนเราจะเป็นอย่างไร? ม้าก็เป็นเช่นกัน หากส้นกีบเตี้ย
เส้นเอ็นด้านหลังของกีบก็จะรับแรงตึงมากกว่าปกติ ทีนี้พอม้าไปวิ่งก็จะรับแรงตึงมากกว่าปกติ
จากที่ปกติก็มากอยู่แล้ว โอกาสในการเจ็บก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
มุมกีบของขาแต่ละข้างแตกต่างกัน |
หากเราใส่รองเท้าคัตชูข้างซ้าย ส่วนข้างขวาเป็นรองเท้าแตะ เวลาเราเดินก็จะรู้สึกอย่างไร? ม้าก็เช่นกัน หากกีบเท้าซ้ายและขวาสูงต่ำต่างกันมาก เวลาเดินน้ำหนักที่ลงไปแต่ละข้างก็จะไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่ง และม้าแข่งหนึ่งตัวน้ำหนักเกือบครึ่งตัน
กีบแบบนี้เรียกว่า Long toe low heel (ปลายยาว ส้นเตี้ย) มุมกีบผิดรูป |
การใส่เกือบที่เล็กเกินไป |
เพราะกีบม้าที่ดี
ความสูงของส้นต้องเท่ากัน มองจากด้านหน้าเมื่อลากเส้นแบ่งตรงกลาง
กีบต้องได้สมมาตรกัน มุมของกีบที่ดีขาหน้าควรอยู่ที่ประมาณ 45 องศา ส่วนขาหลังควรอยู่ที่ประมาณ 50-55องศา เกือกที่ใส่ต้องเหมาะสมกับขนาดของกีบ
ไม่ใช่ตัดแต่งกีบให้เข้ากับขนาดของเกือก
สิ่งต่างๆ เหล่านี้
เจ้าของและเทรนเนอร์สามารถช่วยกันดูแล และให้คำแนะนำกับช่างเกือกได้ เพราะการตอกเกือกเป็นงานที่หนักมาก
จนบางครั้งช่างก็เหนื่อยเสียจนมองข้ามจุดเล็กๆ น้อยๆ นี้ไป คนเลี้ยงสามารถช่วยทำความสะอาดกีบ
และสำรวจความผิดปกติต่างๆ ได้ สิ่งที่สัตวแพทย์ทำได้มีแค่การให้คำแนะนำ
เมื่อเกิดปัญหาไปแล้ว........
ป้องกันที่ต้นเหตุ
ไม่ต้องรอให้เกิดปัญหา ม้าก็ไม่ต้องเจ็บจากสิ่งที่ป้องกันได้
สามารถไปแข่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น