ในฐานะสัตวแพทย์ที่รักษาม้าคนหนึ่ง ความรู้สึกหลังจากที่อ่านไปได้ไม่กี่คอมเมนต์ คือ "นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย"
ผมไม่ได้หยาบคาย แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะสิ่งที่เรียกว่าการรักษาม้าเสียดท้องในกระทู้นี้มันช่างอเมซิ่งสุดแสนลึกล้ำเหลือเกิน
ผมเคยคิดว่า ปล่อยวางละกัน เพราะถ้าไปคอมเมนต์อะไรก็เหมือนการล่อเป้าให้เค้ามาด่า พูดอะไรไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ถ้าจะลงทุนอะไรสักอย่าง มันต้องได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสิ.....
แต่ผมลืมคิดไปว่าผมไม่มีอะไรจะเสีย ไปมากกว่าเวลา ซึ่งถ้ามันจะแลกมากับผลประโยชน์ที่ม้าจะได้ ผมว่ามันคุ้ม
เอาล่ะเกริ่นมานาน เริ่มเลยก็แล้วกัน
............................
............................
เริ่มจากมีคนมาโพสต์ขอความช่วยเหลือเพราะว่าม้าเสียด ปรึกษาหมอปศุสัตว์แล้วบอกให้กรอกน้ำมันพืช 20 CC และให้จูงม้าเดิน อย่าให้นอนกลิ้ง ปรากฏว่ามาถ่ายออกมา 1 กอง แต่อาการไม่ดีขึ้น เลยสงสัยว่าอาหารเป็นพิษร่วมด้วยเหรือไม่ ใครก็ได้ช่วยด้วย ม้าผมเป็นอะไร รักษายังไงบ้างแนะนำที

หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาแนะนำวิธีการรักษาสารพัดสารเพ อันประกอบไปด้วย

ม้าน่าจะเสียดนะครับ กรอกน้ำมันพืชด้วยครับ กฤษณากลั่นก็ดีครับกรอกเลยครับ ผสมเหล้าขาวนิดนึงกำลังแซ่บเลยครับ (เอ๊ะ ไม่ใช่สิ) กรอกยาแล้วให้ตีวงให้ถ่ายหรือผายลมบ่อยๆ ครับ ถ้าหนักมากๆ ต้องให้น้ำเกลือด้วยครับ
ส่วนพี่คนนี้เคยใช้ยาธาตุน้ำแดงผสมกฤษณากลั่น กรอก แล้วให้จูงวิ่ง แล้วหายครับ โอ้ว พระเจ้ายอดมันจอร์จม๊ากกก

แล้วก็เริ่มมีมาให้ความรู้ เริ่มให้สังเกตอาการม้าว่าเป็นอย่างไร เสียดจริงหรือไม่ประมาณนั้นจากนั้นก็แนะนำวิธีการรักษา ซึ่งมันดูง่ายเหลือเกินนะนี่นะ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องหาสาเหตุกันใหม่นะครับ อาจจะไม่เสียดนะครับ

แต่เสียดายที่วิธีการที่บอกมานั้น กว่าจะสังเกตได้อาการม้าก็หนักแล้ว และวิธีการรักษาที่แนะนำแต่ละคอมเมนต์นี่ถ้าไม่หายนี่มันก็ไม่แปลกล่ะครับ
ผมล่ะรักคอมเมนต์นี้เหลือเกิน ทำไมพี่ไม่มาคอมเมนต์เร็วๆ ครับ ตามหมอสิครับ ตามหมอ

แต่พี่ดันมาตกม้าตายตอนท้ายว่าหมอสอดท่อเพื่อกรอกยาแล้วจะช่วยให้หายเร็วขึ้น ไม่ใช่นะครับ
จากนั้นก็เริ่มมี "ผู้รู้" มาให้ข้อมูลและสาเหตุของการเสียด

ถึงแม้ข้อความโดยรวมจะดูน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังมีส่วนที่เข้าใจผิดรวมกันอยู่ ซึ่งมันอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นถูกต้อง ซึ่งมันอันตรายมากครับ อย่างเช่นที่บอกว่าการเสียดท้องในม้ามาจาก 2 กรณี เหมือนจะบอกถึงสาเหตุที่ทำให้ม้าเสียด แต่กลับไปบอกประเภทอาการของม้าเสียดท้องแทน
แล้วก็มีคนเข้าตอบทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยแตกต่างกันไป แต่มีจุดที่น่าสนใจคือเรื่องอ้อยครับ

เรื่องอ้อยนี่น่าสนใจครับ และสามารถนำไปสู่ประเด็นปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ม้าเสียดได้ (ซึ่งผมจะอธิบายทั้งหมดในบทความต่อไป)
แล้วผู้รุ้ท่านเดิมก็เข้ามาไขข้องใจ ด้วยข้อมูลที่ดูแปลกๆ และยังไม่มีผลทดสอบที่แน่ชัด (พอเข้าใจนะครับ)

ประเด็นที่น่าสนใจในคอมเมนต์นี้คือ อาหารหลายๆ อย่างที่เราไม่ควรให้ม้ากิน ซึ่งผมจะขยายความในบทความต่อไป
(จะได้ดูน่าติดตามนิดนึง)
หลังจากนั้น ไม่ทราบว่าเค้าไปคุยกันหลังไมค์อย่างไรหรือไม่ แต่ก็มีการสรุปเลยครับว่าม้าเป็นอะไรกันแน่!!

อ่านแล้วลองเดาดูนะครับว่าจุดไหนควรทำไม่ควรทำ โดยผมจะยกประเด็นที่สร้างความเข้าใจผิดอย่างยิ่งคือ "โดยธรรมชาติม้าสามารถอั้นอุจจาระได้ 1-2 วัน" เฮ้ย ถามจริงนี่มั่นใจจริงๆ เหรอที่พิมพ์ออกมาแบบนี้ คุณกำลังเข้าใจผิด และส่งต่อความเข้าใจที่คุณคิดว่าถูกนั้นให้คนอื่นๆ นะครับ
จากนั้นเจ้าของกระทู้ก็มากล่าวขอบคุณหลังจากที่ม้าหายป่วย หลังจากให้น้ำเกลือไปกระปุกครึ่ง....... เฮ้อออออ แล้วก็ถามต่อว่าให้หญ้าสดจะเป็นอะไรหรือเปล่า
"ผู้รู้" ซึ่งรู้จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ก็มาอธิบายต่อไป

แล้วกระทู้ก็จบลงตรงนั้น ถึงจะมีคนมาถามต่อก็ไม่ได้มีการมาตอบคำถามแต่อย่างใด
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะรู้สึกได้ว่าผมชี้ประเด็นและออกความเห็นที่ลำเอียงมาก แต่ไม่ได้มีเจตนาโจมตีใครแต่อย่างใด
สิ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นจากกระทู้นี้คือ
การส่งต่อความรู้นั้น ผู้ถ่ายทอดควรมั่นใจและรู้จริงๆ ว่าสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อนั้นมันถูกต้องจริงๆ เพราะการส่งต่อความไม่รู้แบบในกระทู้นี้นั้นช่างอันตรายนัก มันส่งต่อกรอบความคิดผิดๆ ความเชื่อผิดๆ ความเข้าใจผิดๆ ต่อๆ กันไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด และผู้ที่ได้รับผลนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นก็คือตัวเหล่าคนเลี้ยงม้าเอง ที่อาจจะต้องเสียม้าไปเพราะความเชื่อแบบผิดๆ
หลังจากบทความนี้ออกไป อาจจะมีคนออกมาเถียงว่า เฮ้ย กูลองแล้วมันรักษาได้จริงๆ มันทำได้ มันหาย
โอเคครับผมไม่เถียง แต่วานท่านช่วยบอกเปอร์เซนต์การรอดของม้า จากวิธีการที่ท่านกล่าวอ้างว่าทำแล้วม้าหาย ทำแล้วได้ผล ผมขอฝากอีกหนึ่งคำถามไปถึงท่านผู้รู้ว่าท่านจะมั่นใจอะไรนักหนา(วะ) ว่าวิธีที่แนะนำอยู่นี้มันถูกต้อง และมันเป็นสิ่งที่ควรทำจริงๆ ถ้าท่านมีเหตุผลเพียงพอมากกว่าการมาเถียงๆ แถๆ ว่าลองทำแล้วมันหาย ค่อยมาคุยกันครับ หรือถ้าอยากถามคำถามผมก็ยินดีที่จะตอบ
แต่อย่างไรก็ดี วันนี้ผมคงจบบทความนี้ไว้เท่านี้ แล้วเราค่อยมาต่อกันในบทความหน้าที่ผมจะมาอธิบายให้ฟังว่า ที่ทำกันแต่ละอย่างเนี่ยอะไรดี อะไรไม่ดีอย่างไร ความเชื่ออันไหนที่มันผิดมหันต์ ข้อมูลใดที่มันครึ่งๆ กลางๆ และอันไหนที่มันถูกต้องบ้าง
แล้วเจอกัน ;)
ช่วงนี้ก็เข้าไปอ่านบทความเรื่องม้าเสียดท้องของโรงพยาบาลม้าโคราช เพื่อทำความเข้าใจกันไปพลางๆ ก่อนแล้วกันครับ

หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาแนะนำวิธีการรักษาสารพัดสารเพ อันประกอบไปด้วย

ม้าน่าจะเสียดนะครับ กรอกน้ำมันพืชด้วยครับ กฤษณากลั่นก็ดีครับกรอกเลยครับ ผสมเหล้าขาวนิดนึงกำลังแซ่บเลยครับ (เอ๊ะ ไม่ใช่สิ) กรอกยาแล้วให้ตีวงให้ถ่ายหรือผายลมบ่อยๆ ครับ ถ้าหนักมากๆ ต้องให้น้ำเกลือด้วยครับ
ส่วนพี่คนนี้เคยใช้ยาธาตุน้ำแดงผสมกฤษณากลั่น กรอก แล้วให้จูงวิ่ง แล้วหายครับ โอ้ว พระเจ้ายอดมันจอร์จม๊ากกก

แล้วก็เริ่มมีมาให้ความรู้ เริ่มให้สังเกตอาการม้าว่าเป็นอย่างไร เสียดจริงหรือไม่ประมาณนั้นจากนั้นก็แนะนำวิธีการรักษา ซึ่งมันดูง่ายเหลือเกินนะนี่นะ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องหาสาเหตุกันใหม่นะครับ อาจจะไม่เสียดนะครับ

แต่เสียดายที่วิธีการที่บอกมานั้น กว่าจะสังเกตได้อาการม้าก็หนักแล้ว และวิธีการรักษาที่แนะนำแต่ละคอมเมนต์นี่ถ้าไม่หายนี่มันก็ไม่แปลกล่ะครับ
ผมล่ะรักคอมเมนต์นี้เหลือเกิน ทำไมพี่ไม่มาคอมเมนต์เร็วๆ ครับ ตามหมอสิครับ ตามหมอ

แต่พี่ดันมาตกม้าตายตอนท้ายว่าหมอสอดท่อเพื่อกรอกยาแล้วจะช่วยให้หายเร็วขึ้น ไม่ใช่นะครับ
จากนั้นก็เริ่มมี "ผู้รู้" มาให้ข้อมูลและสาเหตุของการเสียด

ถึงแม้ข้อความโดยรวมจะดูน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังมีส่วนที่เข้าใจผิดรวมกันอยู่ ซึ่งมันอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นถูกต้อง ซึ่งมันอันตรายมากครับ อย่างเช่นที่บอกว่าการเสียดท้องในม้ามาจาก 2 กรณี เหมือนจะบอกถึงสาเหตุที่ทำให้ม้าเสียด แต่กลับไปบอกประเภทอาการของม้าเสียดท้องแทน
แล้วก็มีคนเข้าตอบทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยแตกต่างกันไป แต่มีจุดที่น่าสนใจคือเรื่องอ้อยครับ

เรื่องอ้อยนี่น่าสนใจครับ และสามารถนำไปสู่ประเด็นปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ม้าเสียดได้ (ซึ่งผมจะอธิบายทั้งหมดในบทความต่อไป)
แล้วผู้รุ้ท่านเดิมก็เข้ามาไขข้องใจ ด้วยข้อมูลที่ดูแปลกๆ และยังไม่มีผลทดสอบที่แน่ชัด (พอเข้าใจนะครับ)

ประเด็นที่น่าสนใจในคอมเมนต์นี้คือ อาหารหลายๆ อย่างที่เราไม่ควรให้ม้ากิน ซึ่งผมจะขยายความในบทความต่อไป
(จะได้ดูน่าติดตามนิดนึง)
หลังจากนั้น ไม่ทราบว่าเค้าไปคุยกันหลังไมค์อย่างไรหรือไม่ แต่ก็มีการสรุปเลยครับว่าม้าเป็นอะไรกันแน่!!

อ่านแล้วลองเดาดูนะครับว่าจุดไหนควรทำไม่ควรทำ โดยผมจะยกประเด็นที่สร้างความเข้าใจผิดอย่างยิ่งคือ "โดยธรรมชาติม้าสามารถอั้นอุจจาระได้ 1-2 วัน" เฮ้ย ถามจริงนี่มั่นใจจริงๆ เหรอที่พิมพ์ออกมาแบบนี้ คุณกำลังเข้าใจผิด และส่งต่อความเข้าใจที่คุณคิดว่าถูกนั้นให้คนอื่นๆ นะครับ
จากนั้นเจ้าของกระทู้ก็มากล่าวขอบคุณหลังจากที่ม้าหายป่วย หลังจากให้น้ำเกลือไปกระปุกครึ่ง....... เฮ้อออออ แล้วก็ถามต่อว่าให้หญ้าสดจะเป็นอะไรหรือเปล่า

"ผู้รู้" ซึ่งรู้จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ก็มาอธิบายต่อไป

แล้วกระทู้ก็จบลงตรงนั้น ถึงจะมีคนมาถามต่อก็ไม่ได้มีการมาตอบคำถามแต่อย่างใด
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะรู้สึกได้ว่าผมชี้ประเด็นและออกความเห็นที่ลำเอียงมาก แต่ไม่ได้มีเจตนาโจมตีใครแต่อย่างใด
สิ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นจากกระทู้นี้คือ
การส่งต่อความรู้นั้น ผู้ถ่ายทอดควรมั่นใจและรู้จริงๆ ว่าสิ่งที่เรากำลังจะบอกต่อนั้นมันถูกต้องจริงๆ เพราะการส่งต่อความไม่รู้แบบในกระทู้นี้นั้นช่างอันตรายนัก มันส่งต่อกรอบความคิดผิดๆ ความเชื่อผิดๆ ความเข้าใจผิดๆ ต่อๆ กันไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด และผู้ที่ได้รับผลนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นก็คือตัวเหล่าคนเลี้ยงม้าเอง ที่อาจจะต้องเสียม้าไปเพราะความเชื่อแบบผิดๆ
หลังจากบทความนี้ออกไป อาจจะมีคนออกมาเถียงว่า เฮ้ย กูลองแล้วมันรักษาได้จริงๆ มันทำได้ มันหาย
โอเคครับผมไม่เถียง แต่วานท่านช่วยบอกเปอร์เซนต์การรอดของม้า จากวิธีการที่ท่านกล่าวอ้างว่าทำแล้วม้าหาย ทำแล้วได้ผล ผมขอฝากอีกหนึ่งคำถามไปถึงท่านผู้รู้ว่าท่านจะมั่นใจอะไรนักหนา(วะ) ว่าวิธีที่แนะนำอยู่นี้มันถูกต้อง และมันเป็นสิ่งที่ควรทำจริงๆ ถ้าท่านมีเหตุผลเพียงพอมากกว่าการมาเถียงๆ แถๆ ว่าลองทำแล้วมันหาย ค่อยมาคุยกันครับ หรือถ้าอยากถามคำถามผมก็ยินดีที่จะตอบ
แต่อย่างไรก็ดี วันนี้ผมคงจบบทความนี้ไว้เท่านี้ แล้วเราค่อยมาต่อกันในบทความหน้าที่ผมจะมาอธิบายให้ฟังว่า ที่ทำกันแต่ละอย่างเนี่ยอะไรดี อะไรไม่ดีอย่างไร ความเชื่ออันไหนที่มันผิดมหันต์ ข้อมูลใดที่มันครึ่งๆ กลางๆ และอันไหนที่มันถูกต้องบ้าง
แล้วเจอกัน ;)
ช่วงนี้ก็เข้าไปอ่านบทความเรื่องม้าเสียดท้องของโรงพยาบาลม้าโคราช เพื่อทำความเข้าใจกันไปพลางๆ ก่อนแล้วกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น